วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คุณ.หรือ..โทษ.การบริโภคข่าวสาร ? โดย อาจารย์ภาพร พุฒิธนกาญจน์ ภาควิชาการประชาสัมพันธ์

 คุณ.หรือ..โทษ.การบริโภคข่าวสาร ?
รวบรวมโดย อาจารย์ภาพร พุฒิธนกาญจน์
ภาควิชาการประชาสัมพันธ์


ข่าวสารเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ต้องบริโภค อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่บริโภค ข่าวสารก็จะวิ่งเข้าหาเราเองในทุกวัน ข่าวสารสำหรับคนบางคนจึงเปรียบเสมือนสารเสพติดประเภทหนึ่งที่ไม่เสพในหนึ่ง วัน ก็จะมีอาการคล้ายกับคนที่ติดสารเสพติด ต้องแสวงหา ต้องหาข้อมูล เพื่อมิให้เป็นคนตกยุคนั่นเอง

การบริโภคข่าวสารทางด้านนิเทศศาสตร์จัดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งในด้าน ของผู้ส่งสาร (Sender) และผู้รับสาร (Receiver) ด้านผู้ส่งสารจำเป็นที่จะต้องมีหลักการในการที่จะเลือกสรรข้อมูล เลือกวิธีการ เลือกสื่อ (Media) หรือช่องทาง (Channel) ที่เหมาะสมกับผู้รับสาร ในขณะเดียวกันผู้รับสารก็จะมีสิทธิ์ในการที่จะคัดเลือกสารหรือข้อมูลจากสื่อ หรือช่องทางที่ผู้รับสารสนใจ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ต้องเล็งเห็น ถึงความสำคัญดังกล่าวข้างต้น

เนื่องจากในศตวรรษนี้โลกได้มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมากมาย จนบางครั้งคนบางคนจะตามเทคโนโลยีไม่ทัน และคนบางคนก็จะพยายามวิ่งตามเทคโนโลยีให้ทัน จากความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการส่งผลให้โลกของข้อมูลข่าวสารได้พัฒนาตามไป ด้วย จะพบว่าการเข้าถึง (Reach) ข้อมูลข่าวสารของผู้รับสารในยุคนี้สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายจากสื่อ (Media) ที่อยู่รอบตัวผู้ รับสาร และจากช่องทาง (Channel) ที่สามารถเลือกสรรได้ตามความพอใจ

ดังนั้นการบริโภคข่าวสารในยุคปัจจุบันจึงเป็นการเลือกสรร เลือกบริโภค เลือกช่องทางได้หลากหลายโดยเฉพาะที่ใกล้ตัวของผู้รับสารมาก เช่น ทางโทรศัพท์มือถือ ทางอินเตอร์เน็ต ทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เคเบิ้ลทีวี เป็นต้น ซึ่งสื่อต่างๆดังกล่าวล้วนพยายามช่วงชิงผู้รับสารให้มากที่สุดเท่าที่จะมาก ได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างมากมายในพื้นที่ของสื่อ เป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้รับสารในการเลือกรับรู้ เลือกรับสาร เลือกช่องทาง ได้ตามความพึงพอใจของตน

ในหนึ่งวันผู้รับสารจะสามารถรับสารได้อย่างหลากหลายมากมาย ข่าวสารจะเข้ามาหาผู้รับสารได้ตลอดเวลานับตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการบริโภคข่าวสารผู้รับสารสามารถรับข้อมูลได้ตลอดเวลายก เว้นแต่ผู้รับสารจะไม่เลือกรับ ไม่รับรู้ เท่านั้น

ข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวันก็จะมีหลากหลายประเภททั้งข่าวสารหนัก (Hard news) และข่าวสารเบา (Soft news) ข่าวสารปัจจุบันที่ทำให้ผู้รับสารต้องติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด คือ ข่าวของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 (A / H1N1) ซึ่งเป็นโรคที่แพร่ติดต่อระหว่างคนสู่คน พบที่ประเทศเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกาแล้วแพร่ไปยังอีกหลายประเทศ ซึ่งเกิดจากการผสมสารพันธุกรรมระหว่างเชื้อไข้หวัดของคน สุกร และนก การตอกย้ำข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ การเพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อ การเพิ่มจำนวนอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน การแสวงหายาต้านไวรัสเพื่อป้องกันให้กับกลุ่มเสี่ยงหรือแม้กระทั่งกับผู้ติด เชื้อ วิธีการป้องกันต่างๆ รวมทั้งบทบาทของรัฐในการแสวงหามาตรการการควบคุมและหาวิธีการป้องกันให้กับ ประชาชน จึงเกิดเป็นปรากฏการณ์กระแสข่าวรายวันเรียกว่า "2009 ฟีเวอร์"


จากการให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 นี้ก่อให้เกิดผลทั้งในด้านบวกและด้านลบ ทำให้ผู้รับสารได้บริโภคทุกๆวัน ซึ่งตามหลักทางทฤษฎีสื่อสารมวลชนโดยบทบาทของสื่อมีหน้าที่ในการให้ข้อมูล ข่าวสารแก่ประชาชนผู้รับสารอยู่แล้วแต่การที่ได้รับมากจนเกินไปหรือผู้รับ สารไม่ตระหนักเท่าที่ควรอาจจะก่อให้เกิดปัญหาในทางตื่นตระหนกมากกว่าจะเป็น การตระหนักซึ่งอาการตื่นตระหนกจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นที่เป็นปัจจัยแทรกซ้อน อยู่อาการกลัวว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าเมื่อได้รับเชื้อแล้วจะเสียชีวิต จึงมีผลทำให้ผู้ที่ต้องรับภาระหนักกับความคิดตื่นตระหนกกับผู้รับสารกลุ่ม นี้คือนายแพทย์ หรือนางพยาบาลผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่จะต้องทำการตรวจรักษาจึงอาจจะเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุทั้งๆ ที่ควรจะได้ทำการรักษากับผู้ที่ป่วยจริงๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึง วิธีการป้องกันให้กับ

ตนเองและครอบครัวรวมทั้งผู้ที่อยู่แวดล้อมในสังคมเดียว กันก็จะเป็นช่วยสร้างให้สังคมเข้มแข็งขึ้น โดยการช่วยระวังป้องกันและแก้ไข

ดังนั้น การบริโภคข่าวสารจึงเป็นทั้งคุณหรือโทษหรืออย่างไร คงจะหาผู้ให้คำตอบได้ยากนอกจากผู้รับสารที่เป็นผู้คัดกรอง เลือกสรร เลือกรับรู้ ตามความพึงพอใจ หรือตามหลักทฤษฎีการเลือกใช้ประโยชน์จากสื่อ ในขณะเดียวกันบรรดาผู้ส่งสารจากสื่อต่างๆ ก็ควรจะต้องมีการทบทวนการสร้างกระแสข่าวโดยคัดเลือกสาร และพิจารณาถึงความถี่ในการส่งสารเช่นกัน เพื่อมิให้ผู้รับสารได้ตกเป็นทาสของการบริโภคข่าวสารอย่างขาดสติมากเกินความ จำเป็น ถ้าสามารถปฏิบัติได้เช่นนี้ก็จะเป็นการสร้างประโยชน์อย่างแท้จริงให้กับโลก ยุคนี้

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมนฺติ
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นทั้งหมดมีดับเป็นธรรมดา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น