วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ฝ่ายค้านแบบ "ชูวิทย์" "เข้าสภา ผมจะตั้งโต๊ะขุดรากขึ้นมาด่า"

 

ฝ่ายค้านแบบ "ชูวิทย์" "เข้าสภา ผมจะตั้งโต๊ะขุดรากขึ้นมาด่า"



คอลัมน์ คู่แข่ง คู่สนาม




2พรรคใหญ่ชิงเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล 

3 พรรคเล็กเสนอตัวเป็นแกนตามฝ่ายรัฐบาล 

หัวหน้าพรรคขนาดย่อม "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" แห่งพรรครักประเทศไทย คนเดียวที่หาเสียงทวนสวนกระแส เสนอตัวเป็นฝ่ายค้าน 

"ประชาชาติธุรกิจ" สนทนาแนวทางการเมือง-เศรษฐกิจ แนวคิดแบบ "ชูวิทย์" 

- การเมืองในสายตาคนที่ชื่อ "ชูวิทย์"

พรรคการเมืองทุกวันนี้ใช้ระบบนอมินีเหมือนกันหมด ใช้ภรรยา ลูก สามี พี่สะใภ้ แม้กระทั่งคนขับรถ เข้ามาบริหารไม่มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน 

นโยบายแต่ละพรรคก็ทำไม่ได้ เพราะใช้หลักคิดการเมืองนำหน้าเศรษฐกิจ คิดถึงแต่คะแนนเสียงมากกว่าทุกข์ร้อนของประชาชน 

บัตรเครดิตชาวนา ผมรู้ว่าคุณทักษิณเอามาจากประเทศอินเดีย ที่นั่นชาวนาฆ่าตัวตายกันเยอะ แต่ผมไม่กล้าเถียง เพราะชาวนาเขาก็เอาด้วย

- ปัญหาการเมืองไทยอยู่ตรงไหน

ไม่มีใครพูดถึงวิธีหาเงิน พูดกันแต่วิธีใช้อย่างเดียว เอาแค่ธุรกิจอาบอบนวดที่ผมเคยทำ รัฐบาลกล้าพอไหมที่จะดึงคนเหล่านี้มาอยู่ในระบบ

คมนาคมขนส่งระบบราง อย่างแอร์พอร์ตลิงก์วิ่งได้เต็มที่ 20-30 กิโลเมตร 

จะขยายไปถึงพัทยาแอร์พอร์ตลิงก์ 60 นาที วิ่งได้ 6 ขบวน มีคนนั่งขบวนละ 6 คน แต่ลงทุนไป 2 หมื่น‰ลˆาน น่าจะใช้เวลาสัก 1,000 ปี ถึงจะคุ้มทุน

จุดบอดข้อต่อมาคือยกกิจการให้ ร.ฟ.ท.เป็นผู้บริหาร ลำพังของตัวเองก็จะเจ๊งอยู่แล้ว เรื่องพวกนี้ไม่มีใครมอง มัวแต่โทษกันว่าสร้างกันสมัยใคร อันไหนดีก็แข่งกันอวดอ้าง อันไหนแย่ก็ผลักให้ออกจากตัว นี่คือวิสัยทัศน์ของการเมืองไทย ปัญหามันอยู่ตรงนี้

- แล้วประเทศควรจะเดินหน้าอย่างไร 

คนไทยทุกคนต้องรับภาระข้าวของแพง พ่อค้านายทุนเสนอทฤษฎี 2 สูง เราก็เชื่อ เพราะคนไทยเทิดทูนคนรวย เทิดทูนนายทุน บริษัทพวกนี้ควบคุมกลไกการตลาดครบวงจร ทุกวันนี้ร้านค้าสะดวกซื้อไปที่ไหนก็มี ผมถามว่าใครล่ะที่ควบคุมวงจรเหล่านี้

วันนี้ประเทศไทยอยู่ในทฤษฎีสูง-ต่ำ คืออาหารแพง ค่าแรงต่ำ เพราะนายทุนเป็นคนกำหนดราคา มันต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด ไม่ใช่เอะอะก็ทำแต่ธงฟ้า 

หากจะว่ากันเรื่องประชานิยม ต้องทำให้ได้เหมือนประเทศเกาหลี-ไต้หวัน โอนเงินสดใส่บัญชีให้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป คนละ 40,000 บาท คนจนก็ได้รับ มหาเศรษฐีก็ได้รับ เท่าเทียมกันไปเลย

- แผนหาเงินเข้าประเทศทำอย่างไร

1.เชิญชวนให้ต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย โดยการลดภาษีนิติบุคคล 

2.กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ควรจะหาเงินกับคนรวย ลดภาษีนิติบุคคลให้ต่ำกว่า 35% 

3.แก้ปัญหาทุจริต ผมจะพูดเลยว่าพ่อค้าทุกคนคอร์รัปชั่นเหมือนกันหมด 

- แล้วคนชื่อ "ชูวิทย์" หาเสียงอย่างไร

ผมหาเสียงกับกระแส ผมหาเสียงกับเสาไฟฟ้า ยึดหน้าสื่อ 

หลักการคือผมเป็นนักกระดาน โต้คลื่น ผมต้องอยู่บนกระดานตลอด ต้องคอยดูว่ากระแสลูกไหนจะทำให้เดินหน้าต่อ

แต่การเลือกตั้งมี 3 กระแส กระแสต้น ออกตัวดีก็ไม่ได้บอกว่าจะชนะ กระแสกลาง ตอนนี้ต้องสู้กันอีกเยอะ ส่วนกระแสท้าย เรารู้อยู่แล้วว่ามี 2 พรรคใหญ่ เขาสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย ผมตัวคนเดียวจะไปทำอะไรได้

- ประชาชนจะได้อะไร หากชูวิทย์เป็นฝ่ายค้าน

เหตุที่รัฐบาลไม่ได้เข้มแข็ง มาจากฝ่ายค้านอ่อนแอ แล้วจะปล่อยรัฐบาลเข้มแข็งอยู่ฝ่ายเดียวได้อย่างไร งบประมาณประเทศอยู่ที่นั่นหมด พวกเขามัวแต่คิดกันว่าจะแบ่งเค้กอย่างไร จะให้ใครบ้างใน 4 ปี แบบนี้มันอันตรายสำหรับประเทศ

ผมล้มรัฐบาลไม่ได้หรอก แต่สามารถเขย่าเขาได้ ผมจะเป็นฝ่ายค้านตลอด 4 ปี ผมก็อาศัยนำเสนอตัวเองเป็นฝ่ายตรวจสอบ 

นักการเมืองต้องวางตำแหน่งของตัวเองให้ชัด อย่างผมเสนอตัวเองเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องวาดลวดลายให้สมกับบทบาท 

- หากมีคนชวนร่วมงานกับรัฐบาลให้เก้าอี้รัฐมนตรี

เป็นไปไม่ได้หรอก ผมเดินไม่ได้หรอกตัวคนเดียว วันนี้ผมเป็นคนไม่มีพวก ที่สำคัญหลายพรรคก็ไม่รับผม เขาว่าผมไม่มีวินัย ผมเลยต้องมาตั้งพรรคเอง แต่พรรคการเมืองไทยต่างหากล่ะที่ไม่มีวินัย เล่นพรรคเล่นพวก 

ไม่ว่าจะเป็น ปชป. หรือเพื่อไทย ไปดูลำดับบัญชีรายชื่อก็แล้วกัน ว่าพรรคที่มีอุดมการณ์ขนาดนั้นก็ยังจัดลำดับตามเงิน ให้มาก่อนลำดับอาวุโส คนเหล่านี้มันก็พวกหวังผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น

ประเด็นสำคัญคือผมเป็นคนพูดตรง พูดชัดเจนเกินไป นักการเมืองบางท่านก็รับไม่ได้ มาฟ้องผม ถามว่าผมเคารพท่านหรือไม่ ผมเคารพนะ ตามวัฒนธรรมไทย แต่ไม่นับถือ เพราะมันไม่ได้ออกมาจากใจจริง

- งานแรกที่จะทำหากได้เป็นฝ่ายค้าน

ผมเตรียมไว้แล้ว คุณจำไว้เลย พอวันที่ 3 ก.ค. บรรดาพรรคการเมืองต้องไปคุยกันในที่ลับ เพื่อจับมือกันว่าทำอย่างไร วันที่ผมเข้าไปสภาวันแรก ผมจะตั้งโต๊ะขุดรากขึ้นมาด่าเลย ว่ามาทำปรองดองอะไรกันตอนนี้ 

ผมถามหน่อยเถอะ วันที่ประชาชนตายกัน 91 ศพ เขาหายไปไหนกันหมด ไม่เห็นมีใครพูดถึง ผมรู้ทัน วันนี้ทาสีชมพู ออกปากพูดว่าปรองดอง แต่วันนั้นที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ทุกคนเงียบหมด ทั้งที่อยู่ในรัฐบาลเดียวกัน 

สุดท้ายคนชื่อชูวิทย์คนเดียวจะทำอะไรได้ ผมก็บอกว่าทำไม่ได้ บ้าหรือเปล่า เอาเป็นว่า ทำให้มันพอสมควร เราเห็นปัญหาทุกอย่างอยู่แล้ว แค่เข้าใจก็เรียกว่าดีแล้ว ผมก็บอกไว้เลยว่าทำไม่ได้หรอก ผมไม่ใช่ฮีโร่


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1308888788&grpid=no&catid=04&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น