คนสนิทเสธ.ไอซ์ปาดหน้าเจ้าสัว หอบเงินมัดจำ 300 ล้าน โผล่ซื้อที่ดิน "ไทยเมลอนฯ" ริมถนนวิภาวดีฯจาก บสท. จับมืออดีต ส.ว.ขอนแก่น และ "พงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์" เจ้าของ เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทุ่มหมื่นล้านเนรมิตเนื้อที่ 616 ไร่ ผุดโครงการเมืองใหม่ "หมู่บ้าน-ศูนย์การค้า-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" รับรถไฟฟ้าสายสีแดง
ไทยเมลอนฯขายแล้ว 3,205 ล้าน
นายเชาวรัตน์ เชาว์ชวานิล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กรณีที่ดินบริษัทไทยเมลอน โพลีเอสเตอร์ เนื้อที่รวม 616 ไร่ แปลงใหญ่ที่สุดของ บสท. ที่มีการประกาศขายนั้น ขณะนี้มีผู้เข้ามาซื้อและทำสัญญาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในราคา 3,205 ล้านบาท โดยผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำก้อนแรก 10% หรือ 300 ล้านบาทในวันทำสัญญา หลังจากนั้นภายใน 30 วัน จะต้องจ่ายก้อนที่สองอีก 10% และก้อนสุดท้ายจะต้องจ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์อีก 80% ประมาณ 2,600 ล้านบาท ภายใน 180 วันนับจากวันทำสัญญา
เท 1 หมื่นล้าน สร้าง "เมืองใหม่"
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ผู้ที่เข้ามาซื้อที่ดินดังกล่าวได้แก่ นายธรรมนัส พรหมเผ่า หรือ ร.อ.มนัส พรหมเผ่า (ผู้กองตุ๋ย) ประธานบริษัท เอเพ็กซ์ ริเวอร์ไซด์ จำกัด โดยนายธรรมนัสเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จะทำการโอนที่ดินโรงงานไทยเมลอนฯให้เสร็จภายใน มิ.ย.นี้ หลังได้เข้าไปซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจาก บสท. เมื่อ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยวงเงินเท่ากับราคาที่ บสท.ตั้งไว้ 3,205 ล้านบาท
"ผมทำธุรกิจอสังหาฯร่วมกับเพื่อน (นายเอกราช ช่างเหลา อดีต ส.ว.ขอนแก่น) มาร่วม 10 ปี ทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดขอนแก่น ที่ดิน บสท.แปลงนี้ผมหมายตาไว้นานแล้ว ตั้งแต่ประกาศขายทอดตลาด แต่ตอนนั้น บสท.ตั้งราคาสูงเกือบ 4,000 ล้านบาท จน บสท.เปิดขายตรง และลดราคาลงมา เห็นข่าวเชิญแต่เจ้าสัวคนดัง ๆ ผมอ่านเจอเลยเดินทางเข้าไปที่สำนักงาน บสท. พร้อมหอบเงินสด 300 ล้านบาทไปวางเลย" นายธรรมนัสกล่าวและว่า
หลังโอนที่เสร็จแล้ว สิ่งแรกที่จะเร่งดำเนินการ คือเข้าไปเจรจากับแกนนำ ผู้บุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวให้ย้ายออกไป ซึ่งจะต้องดูว่าแกนนำต้องการอะไร แต่มั่นใจว่าเคลียร์ปัญหาได้ เพราะส่วนตัวมีประสบการณ์ทำตลาดคลองเตยมาก่อน
นายธรรมนัสกล่าวว่า สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่ใหญ่ 600 กว่าไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็น "เมืองใหม่" เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต ย่านนี้จะไม่ใช่เขตอุตสาหกรรมอีกต่อไปแล้ว
"ผมซื้อที่ดินตรงนี้ตั้งใจจะนำมาพัฒนาเลย เพราะทำเลตรงนี้มีศักยภาพมาก เหมาะที่จะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ ด้านหน้าติดถนนพหลโยธิน ด้านหลังติดแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ ระหว่างสถานีรังสิตและสถานีคลองหนึ่ง ที่ดินเดิมตามผังเมืองเป็นพื้นที่สีม่วง (ประเภทอุตสาหกรรม) จะขอเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ใหม่"
ผุดหมู่บ้าน-ศูนย์การค้า-คอมเพล็กซ์
นายธรรมนัสกล่าวว่า โมเดลที่จะพัฒนาเป็นลักษณะผสมผสาน จะแบ่งเป็นโซนประกอบด้วย 1.พื้นที่ 300 ไร่ จะทำเป็นที่อยู่อาศัยพัฒนาเป็นหมู่บ้าน วี.ไอ.พี. เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้น 30-40 ล้านบาท 2.พื้นที่ 100 ไร่ พัฒนาเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 3.ศูนย์การ ค้าขนาดใหญ่ เทียบเท่ากับห้างสรรพ สินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งหมดคาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท
"โมเดลที่ออกแบบไว้คร่าว ๆ ด้านหน้าจะเป็นศูนย์การค้า ถัดไปเป็นคอมเพล็กซ์ ส่วนที่อยู่อาศัยจะด้านในสุดเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว แต่ต้องรอดูแบบให้นิ่งอีกครั้งก่อน ถ้าเคลียร์อะไรเสร็จคาดว่าจะเริ่มดำเนินการโครงการนี้ได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า"
สำหรับเงินลงทุนโครงการนี้ใช้ทั้งเงินสดและกู้จากสถาบันการเงิน โดยได้ร่วมกับนายเอกราช ในการซื้อที่ดินด้วยเงินสดส่วนตัวคนละครึ่ง และจะร่วมกับนายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาฯมานานเพื่อพัฒนาโครงการ โดยจะร่วมกันพัฒนาในนามบริษัท เอเพ็กซ์ ริเวอร์ไซด์ จำกัด ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท
บสท.แจ้งความดำเนินคดี "บุกรุก"
นางจุไรรัตน์ ปันยารชุน กรรมการ ผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีชาวบ้านเข้าไปบุกรุกที่ดินของ บสท.นั้น ขณะนี้ทาง บสท.ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่ที่ถูกบุกรุก และได้ทำหนังสือไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย ส่วนกรณีที่ผู้บุกรุกเป็นสมาชิกของสมัชชาเกษตรกรนั้น ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจะจัดงบประมาณมาซื้อที่ดินของ บสท. เพื่อนำไปจัดสรรให้กับเกษตรกรที่ขาดที่ดินทำกิน ซึ่งในชั้นนี้ บสท.ทำได้แค่นี้ แต่หลัง บสท.ยุบเลิกกิจการตามกฎหมายในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ทางคณะกรรมการชำระบัญชีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลัง แต่งตั้ง จะเข้ามาทำหน้าที่ ตรงนี้ต่อไป
ปัจจุบัน บสท.มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเหลืออยู่ประมาณ 129,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ประมาณ 49,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 80,000 ล้านบาท จะเป็นสินทรัพย์รอการขาย
......................
"ร.อ.ธรรมนัส" คือใคร ?
เสียงอื้ออึง ถามกันมากว่า ผู้กองหนุ่มผู้คว้าที่ดิน บสท.คนนี้คือใคร เอาเงินมาจากไหน (ตั้ง 3.2 พันล้าน) "ประชาชาติธุรกิจ" มีคำตอบ
ผู้กองหนุ่มมีชื่อเต็มว่า "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ฉายา "ผู้กองตุ๋ย" แต่เพื่อน ๆ จะเรียกชื่อติดปากว่า "ผู้กองนัส" ตามชื่อเดิม "ร.อ.มนัส พรหมเผ่า" ชื่อนี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เพราะเขากำลังสวมบทใหม่เป็น "อภิมหา เจ้าสัวใจถึง" ที่ยอมควักกระเป๋าถึง 3,205 ล้านบาท เพื่อพัฒนาที่ดินของ บสท. 616 ไร่ ให้เป็น "เมืองใหม่" ของกรุงเทพฯย่านวิภาวดีฯ
"ผู้กองนัส" เกิดวันที่ 17 สิงหาคม 2508 ปัจจุบันอายุ 46 ปี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 รุ่นน้อง "พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนายทหารนอกราชการ มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับ "เสธ.ไอซ์" พล.อ. ไตรรงค์ อินทรทัต
ชีวิตหลังออกจากราชการทหารผู้กองคนนี้ก็ลุยทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยในสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนขายกิจการต่อให้ "ล็อกซเล่ย์" ของตระกูล "ล่ำซำ" นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการดูแลแหล่งบันเทิงย่านถนนรัชดาภิเษก ฯลฯ
ปัจจุบันผู้กองนัสมีเครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวางพอสรุปได้ เช่น
1.บริษัท ธรรมนัส การ์ด
2.บริษัทธรรม์นัสว์ คอร์ปอเรชั่น
3.บริษัทธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) ร่วมหุ้นกับชัยวัฒน์ โลมากุล
4.บริษัท สินธุ์มนัส พรหมเผ่า
5.บริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล ผู้บริหารตลาดสดคลองเตยอันลือลั่น
6.บริษัทลีเกิ้ล มีเดีย
7.บริษัท ธรรมพล ประกอบกิจการ ต่อเติม ซ่อมแซม รถยนต์และตัวถังรถยนต์ 8.บริษัทภรศิชา 9.บริษัท เอ็น แอล โมบายล์
10.บริษัทเอ็น แอล เฮ้าส์
นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด จิน ลีเกิ้ล เทคโนโลยี
บริษัท แพน มิลเลนเนียม คอนซัลแท้นส์ จำกัด
บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดยูเคชั่น (2002)
ทันทีที่ชื่อเขาปรากฏ "ผู้กองนัส" ออกมาให้ข่าวกับสื่อว่า "ผมตั้งใจจะทำเมืองใหม่ ส่วนที่ถามกันมามากว่า ผมเอาเงินมาจากไหน จริง ๆ แล้วผมกับเครือข่ายทำธุรกิจอสังหาฯมานานถึง 20 ปีแล้วที่ขอนแก่น มีเงินสะสมทุนส่วนหนึ่งจากธุรกิจสลากกินแบ่ง อีกส่วนผมจะขายหุ้น (บางส่วน) ทิ้งในบริษัทลีเกิ้ล และขายธุรกิจรถร่วม ขสมก.จำนวน 300 คัน หรือ 300 ล้านบาท เรื่องทุนผมว่าผมพอมี ไม่ต้องห่วง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น